Namaste!
Back again in 🇳🇵 Nepal (Dhulikhel), one of our top 5 favourite places in Asia : นมัสเต โฉบมาเนปาลกันอีกครั้ง ประเทศที่เรา 2 คนพูดว่าอยากกลับมาอีก แล้วก็ทำตามสัญญาจริงๆ 💙
🌿 สภาพแวดล้อมที่เนปาล “ยัง” คงสวยงามตรึงใจ ท่องไปในอ้อมกอดของขุนเขา แม้ไม่มีแรงปีนภูผา ก็ดื่มด่ำกับวัฒนธรรม, ธรรมชาติได้ มีนกนานาพันธุ์ สัตว์ป่านั่งชิลล์บนหน้าผา..ดินแดนที่หลอมความเป็นอยู่น่าสนใจ ดูเสน่ห์การใช้ชีวิตของผู้คนหลากชนชาติ อาหารแขก/จีนที่เปิบสนุกลิ้น พบเพื่อนใหม่ที่จริตตรงกัน เยียวยาจิตวิญญาณได้ดี
🇳🇵การบินไทย เหาะข้ามอ่าวเบงกอล มายังสนามบินตริภูวัน ใช้เวลาเพียง 3 ช.ม. ได้หม่ำ 1 สำรับ (ฉู่ฉี่ปลาแซลมอนและยำไก่ย่าง) และนอน 1 งีบ 😴 นกเหล็กแล่นเหนือดินแดนภูเขายักษ์ยอดหยักสูงใหญ่ เหมือนแผ่นดินร้างไร้ผู้คน เห็นแค่หมู่บ้านน้อยๆที่ตั้งบนสันเขา แต่เมื่อบินเข้าหุบเขากาฐมาณฑุ จึงเห็นบ้านเรือนสีน้ำตาลอิฐอัดแน่นเต็มถิ่น ฝุ่นควันปกคลุมบรรยากาศคล้ายเมืองต้องมนต์ คาถาอะไรคงคลายไม่ได้ 🌀
ด่านตรวจคนเข้าเมืองผ่านไปอย่างเร็วเพราะเรากรอกวีซ่าออนไลน์กันมาเรียบร้อย แค่โชว์บาร์โค้ดที่ปรินท์มา จ่ายเงินคนละ US25$ 💵 เอาใบเสร็จไปโชว์เพื่อรับสติ๊กเกอร์วีซ่าท่องเที่ยว อยู่ได้ 15 วันโดยไม่เดินเทร็กกิ้ง.. กระเป๋ามาไวมาก รับแล้วเดินเข้าเครื่องสแกนทั้งคนและสัมภาระ เสร็จแล้วเดินออกมานอกอาคาร เบียดฝูงชนนับพันที่อัดกันเหมือนหมอชิตสมัยก่อน ลมเย็นตีเข้าหน้า หนาวกว่าโรงหนังในเมืองไทยอีก ☀️ แดดแรงจัดกับคนใส่เสื้อแจ็คเก็ตหนาๆช่างเป็นภาพที่ขัดตาจริงๆ (17 องศา) เพราะบ้านเราถ้าเห็นแดดจัดแบบนี้คือร้อนเตาอบระเบิดไง 😅
เราเจอคนขับที่รีสอร์ตส่งมารับ พูดคุยทักพอหอมปากหอมคอ แล้วตากับใจก็จดจ่อวิวข้างทาง ลืมภาพไปแล้วว่าที่นี่มีแท็กซี่คันจิ๋ว รถบัสที่อัดแน่น จักรยานสนิมเกาะที่ขนผลไม้สดมาขายริมถนน 🚙 ทุก 2 วินาทีจะได้ยินเสียงแตรรถ ซักพักสมองจะชินกับมัน แต่ที่ไม่ชินคือทักษะการขับคนที่นี่ โคตรเก่ง! 😱 หลบหลีกได้ไงนายจ๋า ไม่พลาดเลย เบียดมาใกล้มาก มองไปนอกหน้าต่างรถ เห็นรถยนต์และมอไซค์ห่างเราแค่ฟุตเดียว ทดสอบความบ้าจี้ได้เลยว่าถ้ายื่นมือออกไปจั๊กจี้เอวแล้วเค้าจะกริ๊ดไหม ใกล้ไป๊!
🚐 รถเมล์ที่นี่คันเล็กกว่าไมโครบัส คนอัดกันล้นแน่นนอกประตู .. ผดส. น้อยคนใส่หน้ากากกันฝุ่น มีกระเป๋าถือกระป๋องเก็บเงินแบบไทยเลย ปั๊บๆๆ 😀 สภาพรถน่าจะถูกใจเหล่าขาลุย รักความท้าทาย อิอิ ระหว่างทาง เห็นบ้านที่สร้างง่ายๆด้วยอิฐเผา เคลือบด้วยฝุ่น เหมือนยังสร้างไม่เสร็จ ให้อารมณ์ดิบๆ ว่าคับที่อยู่ได้คับใจอยู่ยาก (ก็จริงนะ)
🏡 เรามาถึงรีสอร์ต ที่ๆเคยมา 5 ปีที่แล้ว เปิดประตูรถปั๊บ ลมเย็นตีเข้าหน้าทักทาย (6 องศา) เค้านำเวลคัมดริงค์อุ่นๆมาเสิร์ฟ เป็นน้ำมะนาวอุ่นใส่เครื่องเทศ - กานพลู อบเชย กระวาน โปยกั๊ก กลิ่นหอมเตะจมูก และลมอุ่นๆจากฮีทเตอร์ลอยมากระทบผิว .. ลงทะเบียนเสร็จ สองตายายเดินไต่เขาลูกย่อมสำรวจรีสอร์ต ระลึกความหลังครั้งยังเยาว์วัยAssorted cookies, Nimki, complimentary tea (Jasmine tea, Green Tea, Herbal tea, Lopchu tea). Copper glasses, French press, honey and so much more.
ซุ้มชากาแฟ มีคุ้กกี้หลากรสใส่มาในขวดโหลแก้ว เรียงกันบนชั้นที่มีขวดโหลใส่ Nimki คือขนมขบเคี้ยว .. ชามะลิ ชาเขียว ชาสมุนไพร ชา Lopchu ที่รสคล้ายดาร์จีลิ่ง .. ถ้าจะดื่มน้ำ ก็มีให้เลือกว่าจะใช้แก้วใส หรือกระบอกที่ทำจากทองแดง (เค้าเชื่อว่ามีสรรพคุณนั่นนี่ล้ำเหลือ) ถ้าอยากจะดื่มกาแฟ ก็มีอุปกรณ์ชงแบบเฟรนซ์เพรสให้ น้ำตาลน้ำผึ้งก็มีเตรียมไว้ให้🇳🇵กลับมาจากการเดินรื้อฟื้นความหลัง ก็เข้าห้องเตรียมเช็ดตัว อ่ะไข้ไม่ได้ขึ้น 🌡 แต่หนาวแบบนี้อย่าทำร้ายจิตใจกันเลย 💦 ข้างหมอน มีแม่บ้านเอาถุงน้ำร้อนมาวาง 1 ถุงบนผ้าห่ม และอีก 1 ถุงซุกใต้ผ้าห่มที่ปลายเตียง ที่นอนก็จะอุ่นมาก ❤️
หัวเตียงมีเมล็ดแอลมอนด์แช่น้ำ 2 ชิ้น พร้อมบอกสรรพคุณ ยัง! อย่าเพิ่งเหวี่ยงเข้าปาก เค้าเอาไว้ทานตอนเริ่มวันใหม่.. ข้างๆมีผ้าพันคอม้วนเตรียมไว้ให้แขกใส่พรุ่งนี้ (วันจันทร์) 🌛 ซึ่งที่นี่ วันจันทร์เค้าเป็นสีขาว สวมสีตรงกับวันของพระจันทร์จะได้จูนคลื่นรับพลัง สิ่งเล็กๆน้อยๆที่โชว์ถึงความห่วงใย ใส่ใจ มันก็จะทำให้ใจพองโตNepali Cuisine
🏔 ที่นี่เป็นรีสอร์ตบนภูเขา สูง1560+ เมตรเหนือระดับน้ำทะเล กลางคืนก็จะประมาณ 3-7 องศา ต้องลงบันไดฝ่าอากาศเย็นๆไปห้องอาหาร วันๆนึงเดินขึ้นลงบันไดพันขั้น มันก็จะท้าทายกล้ามเนื้อน่องนิดๆ
🥣 ห้องอาหารเงียบงัน เพราะเป็นช่วงโลว์ซีซั่น หายใจดังไปนี่เกรงใจพนักงานเลย อิอิ มื้อเย็นเป็นคอร์สอาหารเนปาล คนละ US35$ (+10% +13%)
🧂 แน่นอนบนโต๊ะต้องมี พริกไทย เกลือหิมาลายัน เกลือดำกลิ่นไข่ต้ม! ข้าวเกรียบ Papad ถูกนำมาวางเสิร์ฟพร้อม ซอสผักชี มะม่วงกวน แอปเปิ้ล ตามด้วย 🥟 โมโม่ (เกี๊ยวนึ่งไส้ไก่ ห่อด้วยแป้ง 3 สี ทำจากฟักทอง บีทรูท ผักโขม) ตามด้วย Kwati ko ซุปถั่ว 9 ชนิด 😨 โอนายจ๋า ฉันยังไม่ได้แตะเมนคอร์สฉันก็จุกแล้วจ้ะ ทำไงดี เอ้าสู้
เมนคอร์สมาแล้ว ใจก็จะสั่นๆ สงสารต่อมหลั่งน้ำย่อย 😂 มีข้าวกล้อง ข้าวดำ แกงกะหรี่ปลา ผัดผักกะหล่ำดอก ผัดถั่วลันเตา ผัดผักชาร์ด และแกงถั่ว ถึงมาในถ้วยน้อยๆแต่เชื่อเถิดว่าถ้าชูชกอย่างเราบอกว่าจุกแปลว่าจุกจริงไม่อิงตำรา 🐽 กินวนไปค่ะ ศศิวิมลและมาริโอ้ ฮะ อะไรนะ มีของหวานต่อ ผลไม้ก็มา !!Shower area
in case you are wondering what the view behind that white curtain could be.. it's our front porch and anyone could see us showering (if we want them to!) LOL
ใครไม่ใคร่นอนแช่ในอ่าง ก็มาอาบที่ห้องน้ำแบบฝักบัวได้ ใครสงสัยว่าหลังม่านคืออะไร (เอ้อ เราก็สงสัยเลยเปิดดู) มันก็ระเบียงของเรานั่นแหละ คนก็เดินผ่านไปมา ปิดม่านดีกว่าเนอะ 5555🇳🇵Breakfast area at the resort
เราตั้งนาฬิกาปลุกไว้ที่ 6.00 น. (เวลาไทย 7.15, เวลาสมองเที่ยงคืน)แต่ไม่ได้ประเมินความสามารถและอายุของตัวเองเล้ย เจทแลคบวกความล้า นกหลากพันธุ์ช่วยกันปลุกแต่ก็ไม่สำเร็จ ตื่นอีกที 7 โมง รีบลงไปหาอาหารทาน กลัวจะเสียเวลาสำรวจนั่นนี่ อาหารที่นี่เน้นสุขภาพ เค้าปลูกผักออร์แกนิค 🥦🥕 มีฟาร์มเอง ไม่ก็นำวัตถุดิบตามฤดูกาลมาจากฟาร์มท้องถิ่น 🍊 คั้นน้ำผลไม้เอง 🍞 ทำขนมปังเอง 🌱 ทำน้ำวีทกลาสเอง 🍯 มีน้ำผึ้งหลากชนิด สนับสนุนการเกษตรแบบยั่งยืน (Sustainable agriculture) นำรายได้เข้าสู่ชุมชน ดูพึ่งตัวเองดี
คิดว่าตักอาหารมาพออิ่มแล้ว 🥘 พนักงานเดินมาแนะนำแกงถั่วใส่ไข่ต้ม แถมเอามะเขือเทศย่างมาให้อีก 2 ผล จุกอีกแล้วนายจ๋า อิ่มแน่นแบบนี้ ไปเดินสำรวจก่อนละกัน เผื่อจะช่วยย่อย@ Mako’s Zen in Nepal, Amazing vegetarian Japanese cuisine 🌱
มาเนปาล ทำไมทานอาหารญี่ปุ่น 🍙 ผิดกาละเทศะไหม? เรามีหลายเหตุผลที่ทาน เพราะ
🔹 5 ปีที่แล้วไม่ได้ลอง อยากลอง มันคาใจข้างในลึกๆ 💘
🔹 เพราะอาหารเนปาลีสคืนก่อน มันจุกจนอยากนอกใจ 🥟
🔹 ร้าน Mako’s Zen เป็นร้านอาหารพุทธศาสนานิกายเซ็น มี 5 รสสัมผัสคือ ฮอท เปรี้ยว หวาน ขม เค็ม มี 5 สีคือ แดง ขาว ดำ เขียว เหลือง มีการปรุง 5 วิธีคือ ทานดิบ ต้ม คั่ว นึ่ง และผัด และที่เด่นๆคือ ไม่ใส่กระเทียมและหอม ❌
🔹 ร้านนี้เป็นร้านมังสวิรัติ การงดเนื้อสัตว์ซักมื้อไม่ทำให้ดิ้นตาย 🍣 เค้าตกแต่งซูชิเซ็ทได้เหมือน ข้าวปั้นที่มีปลาหลากสีโปะอยู่ คิดแล้วก็ละอายใจ โอหนอกิเลสคน มาทานผักทานหญ้าใจยังฟุ้งไปถึงเนื้อสัตว์ ถึงแม้ไม่ได้เบียดเบียนชีวิต แต่การเผลอคิดก็เผยให้เห็นถึงจิตที่ปรุงไปโน่นนี่ เอาเนาะ ยังไม่บวช
ร้านนี้เป็นร้านขนาดกลางๆ อบอุ่นไปด้วยฮีทเตอร์ที่เปิดพอดี จะเลือกนั่งเก้าอี้ หรือเบาะบนพื้น หรือห้อยขาลงก็ได้ เจ้าของร้านผู้หญิงสัญชาติญี่ปุ่นออกมาต้อนรับด้วยความสุภาพ อ่อนน้อมตามแบบฉบับคนญี่ปุ่น คุยไปคุยมา เค้าทำงานที่กรุงเทพมาหลายสิบปี และย้ายมาเนปาล 8 ปีแล้ว ห่างแดนอาทิตย์อุทัยมาแรมปี แถมชอบมาเที่ยวพัทยา ทานอาหารทะเลริมหาด 🏖 บางทีโลกก็เหวี่ยงคนที่เราอาจเคยกระทบไหล่มาหาเสมอๆ
อาหารเป็นเซ็ท 7 คอร์ส 🍵 ชาเขียวร้อนถูกเติมในถ้วยชาที่มีหูจับเป็นไม้ แบบไม่อั้น แล้ว Appetizer (อาหารเรียกน้ำย่อย เชฟจัดให้ไม่ซ้ำวัน) ก็ตามมาติดๆ ต่อด้วย Miso Soup (มิโซะซุป) และ Assorted veg. sushi platter 🍣 (ซูชิมังสวิรัติรวม) ไม่ทันจิบชา คิวต่อไปคือ Yasai Nimono 🥦 (ผักนึ่งในซอสหวาน) ตบด้วย Tofu Ankake (โฮมเมดเต้าหู้ทอด ราดซอส)
ยัง อย่าเพิ่งอิ่มถ้ายังไม่ได้ทาน Vegetable Tempura 🍤 (เทมปุระผัก สดๆจากสวน แป้งกรอบไม่อมน้ำมัน โรยเกลือชาเขียว) และล้างคาวปากด้วย Hot apple 🍎 เค้าว่าอาหารมาแบบจานเล็กจานน้อย เสร็จสรรพก็โคตรอิ่มค่ะคุณIn love with Momo 🥟
จำเป็นไหมที่ต้องเดินเขาเกือบ 6 โลเพื่อไปกินเกี๊ยวโมโม่ อ่ะเปล่า ไม่ได้เดินเพื่อหาของกิน แต่จะเดินไปวัด เรื่องกินเรื่องรอง ไม่ใช่คนตะกละ 555 🐽 (แน่ใจ๊?) ร้านรวงหลายแห่งที่มีรีวิวดีๆปิดตัวลง ทำให้เราต้องไปตายเอาดาบหน้า เอาร้านที่ใช้ตาดูแล้วใช้ใจคำนวณว่าจะต้องนั่งคาระวะโถสุขภัณฑ์ทั้งวัน/คืนไหม 🧻 (ของแบบนี้ก็ไม่แน่เนาะ ร้านสะอาดๆก็มีแบคทีเรีย) มาจบที่ Dhulikhel Adventure Camp, B&B Restro เบดแอนด์เบรคฟาสต์ที่มีร้านอาหารด้วย เอาฟระ ท้องไส้คงไม่อ่อนแอ มารไม่มีบารมีไม่เกิด !!
เราสั่ง Ghodamacho Tea แพงเป็นอันดับที่ 2 ของลิสต์ชา ไม่ใช่ว่ารวย แต่เป็นเหยื่อการตลาด 😂 190 รูปีเนปาลก็ 53 บาท/แก้ว เพราะเค้าเขียนว่าเป็นชาสมุนไพรที่หาได้ที่โดลปา ในเนปาล Dolpa, Nepal เห็นแล้วคอดอยากจิบน้ำเก๊กฮวยหอมๆ หึหึ
แล้ว Chow Mein (Buff) ก็ตามมา มันคือผัดหมี่เนื้อควาย 🐃 รสก็คล้ายๆเนื้อเค็มบ้านเราอ่ะ ทานคู่กับซอสมะเขือเทศ ให้มาเยอะมากจนทานไม่หมด .. โมโม่ตามมา ด้วยน้ำจิ้มรสแสบ หอมกลิ่นขิง เผ็ดร้อนคอจนต้องค่อยๆจิบชาร้อนตาม เห้นสีหน้าฝาชีดีใจก็ดีใจตาม เพราะเค้าชอบโมโม่มากๆ👋🏼🇳🇵 Leaving Nepal, a country with friendly people
ทริปการมาเนปาลครั้งที่ 2 แบบสั้นๆ ปิดตัวลงด้วยรอยยิ้ม และครั้งที่ 3 จะต้องตามมาเร็วๆนี้ เราไม่เศร้าเลยที่จะออกจากแดนดินถิ่นภูเขาซะที ไม่ใช่เพราะไม่ชอบ แต่ตื่นเต้นมากกว่าว่า 💡 สิ่งที่ได้เรียนรู้จากทริปนี้ เราจะเอามาใช้ในชีวิตจริงอย่างที่ตั้งใจไว้หรือเป็นแค่ราคาคุย 🌳 ความสงบที่ธรรมชาติได้กล่อมเกลาช่วยลดไฟในใจได้ไหม 🧠 ข้อคิดคติเตือนใจต่างๆที่ได้อ่านมันเข้าทางตาทะลุออกท้ายทอยไหม 🌷 ความเป็นมิตรของผู้คนช่วยทำลายกำแพงในใจเราได้เท่าใด 🥟 และอาหารที่ยัดไปจะผลาญได้เท่าไหร่กันเชียว
🇳🇵เนปาลไม่ใช่ประเทศมั่งคั่ง รถราอลวนเบียดกันบนถนนดินแดง ฝุ่นคลุ้ง เกาะโบกบ้านช่องดูแล้วหายใจไม่คล่อง 💦 แต่สิ่งที่ทำให้ใจชุ่มฉ่ำคือผู้คนที่เป็นมิตรมาก (เราไม่รับประกันความพึงพอใจในกรณีที่จักรวาลเหวี่ยงคนไม่ดีมาหาคุณนะ อิอิ) แต่ทุกครั้งที่มา จะเจอคนที่อารมณ์ดี เดินผ่านก็เอามือทาบ-อกบ้าง (ตกใจเห็นร่างประทับตรูเปล่าหว่า) 🙏🏼 บางคนก็พนมมือไหว้พร้อมพูด *นมัสเต* การสบตาและทักทาย มันดูออกมาจากใจ น้ำตาจิไหลเพราะแทบจะไม่ได้เห็นแบบนี้ในไทยนานมากแล้ว ยกเว้นในจังหวัดที่ห่างเมืองหลวง เดี๋ยวนี้เราพูด *สวัสดีค่ะ* แต่แทบไม่มีใครพูดกลับ ไม่มองหน้า เมินเฉย ไม่ทักคนแปลกหน้าหรือคนที่เรารู้จักกันแล้ว เพราะเราไม่ไว้ใจกัน อินี่มาไม้ไหนต้องการไรจากเรา 😅 ไม่เหมือนเมืองไทยสมัยก่อน ที่กล่าวคำสวัสดี ไปลามาไหว้ แม้แต่ “ขอบคุณ” ก็แทบไม่ทำกันแล้ว โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ที่เห็นเทคโนโลยี ความมั่งคั่งทางการเงินมีค่ามากกว่าการแสดงความรู้คุณ 😨 พ่อแม่สมัยนี้ก็ไม่เคร่ง ไม่สอนอนาคตของชาติ เหมือนจงใจทำร้ายและแกล้งให้ลูกโตมาเป็นขยะที่ไม่รู้จักมารยาททางสังคม ศศิวิมลบ่นอีกแล้วอ่ะค่ะ 🤬
🙏🏼 เราอำลาพนักงานรีสอร์ต ไม่ได้สัญญาพล่อยๆว่าจะกลับมาอีก (เพราะอยากไปเมืองอื่นบ้าง) รถบักกี้นำกระเป๋าขนาดย่อมขนใส่ท้าย เรากระโดดขึ้นแล้วเค้าก็ขับลงเขาอย่างช้าๆ ลงไปส่งที่แท็กซี่ที่จะนำเราไปสนามบิน จากวิวดอยอากาศงามๆ เราผ่านกาฐมัณฑุ ฝุ่นตลบ 🚖 เสียงแตรดังตามจังหวะชีพจร เค้าไม่ได้กดเพื่อด่ากันนะ แค่ให้ระวัง แต่ฟังแล้วใจมันเต้น 555
✈️ สนามบินโกลาหลในระดับที่รับได้ คล้ายๆหมอชิตหรือสายใต้สมัยก่อน เราจะใช้รูปีให้หมดเพราะ SCB เตือนว่าแลกคืนในไทยไม่ได้ เลยซื้อหนังสือนกและดอกไม้มาเพิ่ม 📚 เค้าว่าที่เนปาล อย่าคาดหวังว่าอะไรจะตรงเวลา แต่คราวนี้ การบินไทยออกตรงเวลาม๊าก ขามาเค้าให้นั่งเครื่องด้านซ้าย ขากลับด้านขวา จะได้เห็นภูเขา 🙄 ฟ้าปิด สลัด !
🐟 อาหารรอบนี้เลือก *สำรับไทย* เป็นปลากระพงผัดน้ำพริกเผา ยำตะไคร้กุ้งและไก่สับ คะน้าผัดพริก ข้ามหอมมะลิ ส่วนอาหารท้องถิ่นของพี่โอ้ เป็นมันฝรั่งต้มผัดกับเครื่องเทศ 🥘 แกะหมักเครื่องเทศย่างซอสเนย แกงมันฝรั่งใส่ดอกกะหล่ำ ข้าวมันผสมขมิ้น แผ่นนาน (ฮีก็ยังไม่เบื่อแกงแขกเนอะ) ของหวานเราทั้งคู่เป็นเต้าทึงน้ำลำไย ทานเสร็จว่าจะดูรูปแต่ง่วงมาก นอนดีกว่า เจอกันที่ประเทศไทยแลนด์แดนยิ้มสยามค่ะ 🙏🏼
Would you like to make any comment?